1. กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือใคร
ก่อนจะเริ่มสร้างธุรกิจหรือแบรนด์ขึ้นมา คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์คือใคร? เนื่องจากสินค้าจะขายได้ดีก็ต่อเมื่อแบรนด์มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน โดยอาจจำแนกตามอายุ เพศ รายได้ อาชีพ ความชื่นชอบ และอื่น ๆ แต่ในบางครั้งแรงบันดาลใจก็มาก่อนการมองหากลุ่มเป้าหมาย แต่ถ้าแรงบันดาลใจผุดขึ้นมาก่อน ก็ต้องคิดต่อทันทีว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร เพราะสิ่งที่คุณจะทำคือธุรกิจ ธุรกิจคือการสร้างกำไร ดังนั้นการมองหากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์จึงถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจทุกประเภท และช่วยทำให้คุณสามารถลงมือทำสเต็ปต่อไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น กำหนดทิศทางแบรนด์ วางแผนการตลาด เป็นต้น
2. หาแรงบันดาลใจ
อยากทำเสื้อผ้าสไตล์แบบไหน ก็ต้องสร้างสรรค์ไอเดียออกมาให้ได้มากที่สุด เพราะเสื้อผ้าในตลาดนั้นมีการออกแบบซ้ำจำเจอยู่มาก หรือเรียกว่าก็อบแบบเดิมมาผลิตใหม่โต่ง ๆ เลยก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าอยากทำแบรนด์เสื้อผ้าให้โดดเด่น คุณต้องหมั่นหาข้อมูลและแรงบันดาลใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเสื้อผ้า ชนิดของเนื้อผ้า คุณสมบัติผ้า การตัดเย็บและอื่น ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับเสื้อผ้าแบรนด์ของคุณให้โดดเด่นไม่เหมือนใครค่ะ
3. สไตล์ของแบรนด์
เมื่อหาแรงบันดาลใจได้แล้ว ขั้นต่อมาคือการเริ่มร่างสไตล์ของแบรนด์อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดทิศทางดีไซน์ของแบรนด์ สีของแบรนด์ ชื่อแบรนด์ โลโก้และอื่น ๆ โดยคุณต้องมีสไตล์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ นอกจากนี้การออกแบบสไตล์ของแบรนด์ จะสามารถสะท้อนถึงรสนิยมเฉพาะบุคคลของผู้ที่สวมใส่ได้อีกด้วย อย่างเช่น หากแบรนด์เสื้อผ้าของคุณเป็นแนวเดรสสั้นเกาหลี เดรสฟูฟ่อง สามารถสะท้อนให้เห็นว่าผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าแนวนี้จะมีรสนิยมและลักษณะบุคลิกเป็นสาวหวาน สาวน่ารัก สาวอ่อนโยน เป็นต้นค่ะ
4. เลือกแหล่งผลิตเสื้อผ้า
ขั้นตอนนี้สำคัญไม่แพ้กับการหากลุ่มเป้าหมาย นั่นก็คือ การเลือกแหล่งผลิตเสื้อผ้า ถ้าอยากให้กิจการของคุณไปได้ดีไม่มีสะดุด ก็ต้องเลือกพาร์ทเนอร์ที่ดีควบคู่ไปด้วยค่ะ การหาช่างฝีมือที่ถูกใจถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ หาเนื้อผ้า สร้างแพทเทิร์น ขึ้นแบบหรือเย็บตัวอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเจ้าของแบรนด์จะใช้เงินเกินงบประมาณในขั้นตอนนี้ เพราะถ้าเกิดเจอโรงงานที่ขึ้นแบบได้ไม่ถูกใจ ทำงานช้า หรือจริตไม่ตรงกัน ก็ต้องทำการหาโรงงานใหม่ไปเรื่อย ๆ แก้ไขไปซ้ำ ๆ จนกว่าจะเจอโรงงานที่ถูกใจ แต่ก็อย่าลืมมองถึงมาตรฐานของโรงงานด้วยนะคะ ถ้าโรงงานมีมาตรฐานดี ก็จะช่วยส่งเสริมแบรนด์ให้มีคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีไปด้วยค่ะ
5. วางแผนการตลาด
สิ่งสุดท้ายของการทำแบรนด์ แน่นอนว่าต้องเป็นการวางแผนการตลาด เมื่อคุณมีสินค้าพร้อมขายแล้ว ต่อไปคือการตั้งราคาขาย คุณต้องวางจุดยืนของแบรนด์อย่างชัดเจนและศึกษาข้อมูลคู่แข่งในตลาด เพื่อที่จะวางราคาอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ต่อไปคือการหาช่องทางการขายสินค้า ออฟไลน์ก็ดี ออนไลน์ก็ปัง ซึ่งถ้าหากในตลาดมีคู่แข่งจำนวนมากหรือมีการแข่งขันที่สูง คุณจะต้องเริ่มทำการโฆษณาสินค้าร่วมด้วย เพื่อโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการยิงแอด การจัดโปรโมชั่น การทำแคมเปญ การจ้าง Influencer การรีวิวสินค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย
เป็นยังไงกันบ้างคะ? สำหรับ 5 วิธีทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ถ้าใครคิดจะทำแบรนด์ แต่ยังไม่กล้าลงมือ ให้ลองใช้เวลาว่าง ๆ ในการหาแรงบันดาลใจก่อนได้ค่ะ เพราะแรงบันดาลใจนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการจะเริ่มต้นทำไรสักอย่าง
แต่หากใครพร้อมแล้วที่จะทำแบรนด์เสื้อผ้า MARWINGARMENT ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของคุณ!
MARWINGARMENT โรงงานผลิตเสื้อผ้าแบบครบวงจร (One-Stop Service) มีบริการให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นแพทเทิร์น สกรีนลายเสื้อ เลือกชนิดผ้าและอื่น ๆ เราคือผู้ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดส่งเสื้อยืดคุณภาพสูง มีการใช้เทคนิคผลิตเสื้อผ้าที่ทันสมัย รวมถึงควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดตลอดกระบวนการผลิต เพื่อให้เสื้อผ้าแบรนด์ของคุณออกมาคุณภาพดีอย่างไร้ทิติ หากสนใจคุยกับเรา
shopee : shopee.co.th/marwingarment
Line : @marwingarment
Facebook : marwin garment
website : marwingarment.com